03 มีนาคม 2543

การเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอน การห้ามและอนุญาตให้ซื้อขาย

ตลาดหลักทรัพย์แจ้งการเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอน และการห้ามและอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ บริษัทจดทะเบียน ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดหลักเกณฑ์เพิกถอนหลักทรัพย์ โดยใช้เกณฑ์พิจารณาว่า บริษัทจดทะเบียนเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน และต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) ต่ำกว่าศูนย์ ทั้งนี้ในการพิจารณาส่วนของผู้ถือหุ้นดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาปรับปรุง บวกกลับด้วยผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่หากผู้สอบบัญชี แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข (Qualified) ในรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงินอันเป็นผลให้ ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากที่แสดงไว้ในงบดุล ตลาดหลักทรัพย์จะปรับปรุงเป็นส่วนหักกับส่วนของผู้ถือหุ้น ในกรณีที่ส่วนของผู้ถือหุ้นหลังปรับปรุงมีค่าต่ำกว่าศูนย์ก็ให้นำมาพิจารณาตามเกณฑ์เข้าข่ายถูกเพิกถอนด้วยนั้น จากการพิจารณางบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2542 ที่ผ่านการตรวจสอบจาก ผู้สอบบัญชีที่บริษัทจดทะเบียนได้นำส่งมายังตลาดหลักทรัพย์ ปรากฏว่า บริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูก เพิกถอนและต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์มีจำนวน 6 บริษัท ดังนี้ 1. บริษัทนครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน) (NSM) 2. บริษัทศรีวรา เรียล เอสเตท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (S-VARA) 3. บริษัทศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) (SIKRIN) 4. บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (STECON) 5. บริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (BH) 6. บริษั*ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) (ROBINS) เพื่อปฎิบัติให้เป็นไปตามความในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอน หลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 ตลาดหลักทรัพย์จึงดำเนินการดังนี้ 1. ประกาศการเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนของบริษัทให้ ผู้ลงทุนได้ทราบ และขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ทั้ง 7 บริษัทดังกล่าว เป็นการชั่วคราวในวันที่ 6 มีนาคม 2543 2. ย้ายหลักทรัพย์ไปอยู่ภายใต้หมวด "REHABCO" ในวันที่ 9 มีนาคม 2543 โดยยังคง ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนจนครบ 30 วันนับจากวันประกาศเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือจนถึงวันที่ 4 เมษายน 2543 ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริหารของบริษัทมีเวลาที่จะพิจารณาอย่างรอบคอบก่อน ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ดีที่สุดแก่บริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท 3. ให้บริษัทแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเ*ศไ*ย*ราบภายในวัน* 4 เมษายน 2543 เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนทั่วไปถึงทางเลือกว่า บริษัทจะทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอผู้ถือหุ้น หรือจะเพิกถอน โดยสมัครใจ หรือทางเลือกอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท ตลอดจนกำหนดเวลาดำเนินการใน ทางเลือกดังกล่าว 4. ในกรณีที่บริษัทประสงค์ที่จะจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอผู้ถือหุ้น บริษัทจะต้องดำเนินการ ดังนี้ 4.1 แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระร่วมจัดทำแผนดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุแห่ง การเพิกถอน 4.2 จัดทำแผนดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุที่หุ้นสามัญของบริษัทอาจถูกเพิกถอนจากการ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามความในข้อ 30/4 แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทต้องร่วมกับ *ปรึกษา*างการเงินจัด*ำแผนดำเนินการเพื่อเสนอต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทภายใน 4 เดือนนับแต่วันที่ ได้รับหนังสือแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์หรือภายในวัน* 5 กรกฎาคม 2543 4.3 ร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนฯ เพื่อแก้ไขเหตุที่หลักทรัพย์ของบริษัทอาจถูกเพิกถอนให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบทุก 3 เดือนจนกว่าจะพ้นเหตุ แห่งการเพิกถอน 5. จะอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนทั้ง 5 บริษัท ได้แก่ NSM, S-VARA, SIKRIN, BH และ ROBINS ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใต้หมวด REHABCO ระหว่างวัน* 5 เมษายน 2543 ถึงวัน* 4 พฤษภาคม 2543 ภายหลังจากมีข้อมูลตามข้อ 3 แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีโอกาสซื้อหรือขายหลักทรัพย์ได้อีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะสั่งห้าม การซื้อขายระยะยาวในระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ในกรณี STECON อยู่ระหว่างจัดทำแผนฟื้นฟูเพื่อขอความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ และศาล ตลาดหลักทรัพย์จึงยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP จนกว่าศาลเห็นชอบแผนฟื้นฟูและบริษัทได้เผยแพร แผนดังกล่าวอย่างชัดเจนแล้ว 6. ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ของบริษัทจดทะเบียนทั้ง 5 บริษัท ได้แก่ NSM, S-VARA, SIKRIN, BH และ ROBINS ตั้งแต่ วัน* 8 พฤษภาคม 2543 เป็นต้นไป จนกว่าจะพ้นเหตุแห่งการเพิกถอน ทั้งนี้บริษัทสามารถขอให้ ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในหมวด REHABCO ได้ในกรณีที่บริษัท ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ได้มากกว่าร้อยละ 50 ของมูลหนี้*งหมด และแผนฟื้นฟูกิจการได้รับอนุมัติ จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว หรือศาลได้มีคำสั่งอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลายแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์กำหนด ตลาดหลักทรัพย์ขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปโปรดศึกษารายละเอียดงบการเงินฉบับเต็ม ของบริษัทจดทะเบียนทั้ง 6 บริษัทดังกล่าวได้ในระบบ R-SIMS พร้อมทั้งติดตามการนำเสนอแผนดำเนินการ ที่บริษัทร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินได้จัดทำขึ้นและนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท wp2/n-del.txt