15 พฤษภาคม 2539
งบการเงินเดี่ยวไตรมาส1 31/03/39 บมจ.ซิโน-ไทย
รายงานการสอบทานงบการเงินระหว่างกาล
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538
เสนอ ผู้ถือหุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 งบกำไรขาดทุน และกำไรสะสม สำหรับระยะเวลา 3 เดือน สิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละงวดของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วย การทำความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูล ทางการเงิน และการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการ สอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป เพื่อแสดง ความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้
ดังที่กล่าวในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 2 ในปี 2539 และ 2537 บริษัทได้ เปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชี เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม จากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสีย โดยส่วนได้เสียในกำไรของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมและส่วนได้เสียในกำไรของบริษัทร่วม ในงบการเงินสำหรับระยะเวลา 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 จำนวนเงิน 23.85 ล้านบาท และ 14.44 ล้านบาท ตามลำดับ ได้ถือตามข้อมูลที่จัดทำโดย ผู้บริหารของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลนี้ ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป จากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายนิรันดร์ ลีลาเมธวัฒน์)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 2316 บริษัท สำนักงาน พีทมาร์วิค สุธี จำกัด กรุงเทพฯ 10 พฤษภาคม 2539
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
งบดุล
(ยังไม่ได้ตรวจสอบ) (จำนวนเงินพันบาท) 31 มีนาคม
สินทรัพย์ 2539 2538 สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดและเงินฝากธนาคาร 71,023 60,799
ตั๋วเงินรับ - บริษัทการเงิน 1,095,640 380,000
เงินลงทุนระยะสั้น 372,626 447,831
ลูกหนี้การค้า - สุทธิ (หมายเหตุ 1 และ 3) 1,396,460 1,241,545
ลูกหนี้บริษัทในเครือและบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน - สุทธิ 33,879 83,629
ลูกหนี้เงินประกันผลงาน - สุทธิ 263,526 318,482
งานระหว่างก่อสร้างตามสัญญา (หมายเหตุ 1) 407,377 674,740
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 83,813 75,326
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 3,724,344 3,282,352 เงินให้กู้ยืม และเงินทดรองแก่กรรมการและลูกจ้าง 16,733 19,386 เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทในเครือและบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน 44,240 44,240 เงินลงทุน (หมายเหตุ 2) 1,203,532 539,426 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ (หมายเหตุ 6) 1,295,372 345,931 อาคารชุด 156,432 159,184 เงินล่วงหน้าซื้ออาคารชุด 65,224 63,500 สินทรัพย์อื่น 108,705 120,749
รวมสินทรัพย์ 6,614,582 4,574,768
________________________ ________________________
กรรมการ กรรมการ
ดูหมายเหตุประกอบงบการเงิน
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
งบดุล
(ยังไม่ได้ตรวจสอบ) (จำนวนเงินพันบาท) 31 มีนาคม
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 2539 2538 หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 330,693 54,513
เจ้าหนี้ทรัสต์รีซีท 8,338 4,133
เงินกู้ยืมระยะสั้น 520,000 -
เจ้าหนี้การค้า 607,516 564,118
เจ้าหนี้บริษัทในเครือและบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน 40,009 6,207
เงินรับล่วงหน้าตามสัญญา 212,890 207,264
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 137,781 123,017
รวมหนี้สินหมุนเวียน 1,857,227 959,252 หุ้นกู้แปลงสภาพ (หมายเหตุ 4) 2,047,284 2,042,708 หนี้สินอื่น 17,809 6,421 ส่วนเกินของราคาตามบัญชีที่สูงกว่าราคาทุนของเงินลงทุน 65,541 -
รวมหนี้สิน 3,987,861 3,008,381 ส่วนของผู้ถือหุ้น
ทุนเรือนหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท (หมายเหตุ 5)
ทุนจดทะเบียน
หุ้นบุริมสิทธิ 7,000,000 หุ้น 70,000 70,000
หุ้นสามัญ 68,000,000 หุ้น 680,000 680,000
ทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้ว
หุ้นบุริมสิทธิ 7,000,000 หุ้น 70,000 70,000
หุ้นสามัญ 23,000,000 หุ้น 230,000 230,000
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 486,000 486,000
ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ (หมายเหตุ 6) 834,565 -
กำไรสะสม
จัดสรรแล้ว - สำรองตามกฎหมาย 30,108 13,583
ยังไม่ได้จัดสรร 976,048 766,804
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 2,626,721 1,566,387
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 6,614,582 4,574,768
________________________ ________________________
กรรมการ กรรมการ
ดูหมายเหตุประกอบงบการเงิน
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
งบกำไรขาดทุนและกำไรสะสม
(ยังไม่ได้ตรวจสอบ)
ระยะเวลา 3 เดือน (จำนวนเงินพันบาท สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม เว้นแต่กำไรต่อหุ้น) 2539 2538
รายได้ (หมายเหตุ 1)
รายได้จากงานก่อสร้าง 1,463,263 1,190,363
ส่วนของกำไรของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม 26,328 12,285
รายได้อื่น 27,757 36,691
รวมรายได้ 1,517,348 1,239,339 ค่าใช้จ่าย (หมายเหตุ 1)
ต้นทุนงานก่อสร้าง 1,286,877 1,048,441
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 99,755 69,010
ดอกเบี้ยจ่าย 25,070 13,790
ภาษีเงินได้ 23,958 29,323
รวมค่าใช้จ่าย 1,435,660 1,160,564 กำไรสุทธิ 81,688 78,775 กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรต้นงวด 744,251 580,820 ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี เงินลงทุนในบริษัทย่อยต่อกำไรสะสมต้นงวด (12,206) - ค่าความนิยมของเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมตัดบัญชี
และส่วนแบ่งในกำไรตามวิธีส่วนได้เสียในบริษัทย่อยและ
บริษัทร่วมยกมาต้นงวด (หมายเหตุ 2) 162,315 107,209 กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสิ้นงวด 976,048 766,804 กำไรต่อหุ้น (บาท) 2.72 2.63
ดูหมายเหตุประกอบงบการเงิน
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุประกอบงบการเงิน
31 มีนาคม 2539 และ 2538
(ยังไม่ได้ตรวจสอบ)
หมายเหตุ 1 - สรุปนโยบายการบัญชีที่สำคัญ
การรับรู้รายได้
รายได้จากงานก่อสร้างของบริษัทบันทึกตามอัตราส่วนร้อยละของงานที่ทำเสร็จ ซึ่งประเมิน
โดยวิศวกรของบริษัท รายได้ที่บันทึกตามอัตราส่วนร้อยละของงานที่ทำเสร็จส่วนที่เกินกว่า
รายได้ที่มีการเรียกเก็บเงินตามใบกำกับสินค้าแล้วทั้งสิ้นบันทึกเป็นลูกหนี้การค้า
รายได้อื่นบันทึกตามเกณฑ์สิทธิ
การรับรู้ค่าใช้จ่าย
ต้นทุนงานก่อสร้างบันทึกตามอัตราส่วนร้อยละของงานที่ทำเสร็จของราคาต้นทุนโดยประมาณ
หรือตามต้นทุนงานก่อสร้างที่เกิดขึ้นจริง ผลต่างระหว่างต้นทุนที่บันทึกตามอัตราส่วนร้อยละ
ของงานที่ทำเสร็จของราคาต้นทุนโดยประมาณและต้นทุนงานก่อสร้างที่เกิดขึ้นจริงในกรณี
ที่บริษัทบันทึกต้นทุนตามอัตราส่วนร้อยละของงานที่ทำเสร็จบันทึกเป็นงานระหว่างก่อสร้าง
ตามสัญญา
ค่าใช้จ่ายบันทึกตามเกณฑ์สิทธิ
หมายเหตุ 2 - การเปลี่ยนแปลงทางบัญชี
ในปี 2539 และ 2537 บริษัทได้เปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัท
ร่วมจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสีย
การบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม โดยวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินสำหรับ
ระยะเวลา 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 ได้ใช้ข้อมูลทางการเงินที่
ได้รับการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีแล้วสำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง และได้ใช้ข้อมูล
ทางการเงินเพื่อการตีราคาเงินลงทุนที่จัดทำโดยผู้บริหารของบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งและ
บริษัทร่วม ซึ่งยังมิได้รับการตรวจสอบหรือสอบทานโดยผู้สอบบัญชีตามมาตรฐานการสอบบัญชี
หรือมาตรฐานการสอบทานงบการเงินสำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งและบริษัทร่วม
ผลกระทบต่อกำไรสะสมยกมา ณ วันต้นงวดสำหรับระยะเวลา 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
2539 และ 2538 หากได้ใช้วิธีการบัญชีเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียตั้งแต่วันที่ได้รับเงินลงทุน
มาได้แสดงไว้เป็นรายการแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุนและกำไรสะสม
การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีดังกล่าวได้กระทำขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่
กำหนดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามหนังสือลงวันที่ 30 ธันวาคม 2536
ในปี 2539 และ 2538 บริษัทร่วมแห่งหนึ่งได้เพิ่มทุนจดทะเบียน โดยออกจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน
ในราคาที่สูงกว่าราคาตามมูลค่าแก่ผู้ถือหุ้นใหม่ทั้งจำนวน โดยมีผลให้ส่วนได้เสียของบริษัทใน
บริษัทร่วมดังกล่าวเพิ่มขึ้นจำนวน 43.12 ล้านบาท และ 25.71 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัท
ได้บันทึกส่วนได้เสียที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทร่วมดังกล่าวเป็นส่วนเกินของ
ราคาตามบัญชีที่สู่งกว่าราคาทุนของเงินลงทุน โดยแสดงภายใต้หนี้สินไม่หมุนเวียนในงบการเงิน
และมีกำหนดตัดบัญชีตามวิธีเส้นตรงภายในระยะเวลา 10 ปี
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสียใน
งบการเงินสำหรับระยะเวลา 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 มีดังนี้
(จำนวนเงินล้านบาท นอกจากกำไรต่อหุ้น) ล้านบาท
2539 2538
เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 242.29 118.10
กำไรสะสมต้นงวดเพิ่มขึ้น 150.11 107.21
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.33 12.29
กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น (บาท) 0.88 0.41
หมายเหตุ 3 - ลูกหนี้การค้า
ลูกหนี้การค้า ณ วันที่ 31 มีนาคม ประกอบด้วย
(จำนวนเงินล้านบาท นอกจากกำไรต่อหุ้น) ล้านบาท
2539 2538
ลูกหนี้การค้า 778,046 688,136
งานก่อสร้างส่วนที่ยังไม่ได้เรียกเก็บเงิน
ตามใบกำกับสินค้า 653,799 588,794
1,431,845 1,276,930
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (35,385) (35,385)
รวม 1,396,460 1,241,545
หมายเหตุ 4 - หุ้นกู้แปลงสภาพ
บริษัทออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ไม่มีหลักประกัน มูลค่า 80,000,000 เหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 17
ธันวาคม 2536 ดอกเบี้ยอัตรา 1.75% สุทธิจากภาษีหัก ณ ที่จ่าย กำหนดจ่ายปีละครั้งใน
วันที่ 17 ธันวาคม ทุกปี เริ่มแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2537 และชำระคืนในวันที่ 17 ธันวาคม
2546
ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2537 จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2546 หุ้นกู้แต่ละหุ้นมีสิทธิแปลงสภาพ
เป็นหุ้นสามัญของบริษัทที่ชำระค่าหุ้นเต็มจำนวนแล้วได้ ในราคาที่กำหนดเบื้องต้น 424 บาท
ต่อหุ้น ตามข้อบังคับของบริษัทบุคคลต่างประเทศอาจถือหุ้นของบริษัทเนื่องจากการใช้สิทธิแปลง
สภาพหุ้นกู้ได้ไม่เกิน 45% ของทุนเรือนหุ้นของบริษัทที่ออก หากมีการแปลงสภาพหุ้นกู้ทั้งสิ้น
จำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้นที่พึงออกจากการแปลงสภาพจะเท่ากับประมาณ 14% ของทุนเรือนหุ้นที่
ออกหลังจากแปลงสภาพแล้ว
บริษัทอาจไถ่ถอนหุ้นกู้บางส่วนหรือทั้งหมดได้ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2539 เป็นต้นไป
ในราคาตามมูลค่าหุ้นกู้ ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหุ้นของบริษัทมีราคาปิดในตลาดหลักทรัพย์
ก่อนไถ่ถอนไม่ต่ำกว่า 150% ของราคาไถ่ถอน
ผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิเรียกให้บริษัทไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ 17 ธันวาคม 2539 ในราคา 112.1637%
ของมูลค่าหุ้นกู้
บริษัทมีแผนการเงินที่จะใช้เงินที่ได้จากการออกหุ้นเพื่อชำระหนี้ของบริษัท ให้กู้ยืมแก่บริษัท
ในเครือ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนของบริษัท
ที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2536 อนุมัติให้บริษัท
ออกหุ้นกู้แปลงสภาพนี้ได้ และให้สำรองหุ้นสามัญที่ยังมิได้เรียกชำระ จำนวน 6 ล้านหุ้น
มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เพื่อรองรับการแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญนี้
บริษัทบันทึกสำรองเพื่อการไถ่ถอนหุ้นกู้ในราคาที่สูงกว่าราคาตามมูลค่าหุ้นกู้จำนวน 12.1637%
ในสัดส่วนร้อยละ 5 ของมูลค่าหุ้นกู้จำนวน 80,000 หุ้น โดยได้รวมภาษีหัก ณ ที่จ่ายไว้แล้ว
ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่ 12/2539 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2539 และ
ครั้งที่ 20/2538 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2538 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538
สำรองดังกล่าวมีจำนวนเงินประมาณ 13.68 ล้านบาท และ 9.10 ล้านบาท ตามลำดับ
ซึ่งได้แสดงเป็นส่วนหนึ่งของหุ้นกู้แปลงสภาพ
หมายเหตุ 5 - ทุนเรือนหุ้น
ที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติพิเศษ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2534 และวันที่
22 พฤศจิกายน 2534 ให้เพิ่มทุนเรือนหุ้นของบริษัทจาก 255 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย
หุ้นบุริมสิทธิ 7 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท และหุ้นสามัญ 18.5 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10
บาท เป็น 750 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นบุริมสิทธิ 7 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท และ
หุ้นสามัญ 68 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยนำหุ้นสามัญออกจำหน่ายครั้งแรกในเดือน
มิถุนายน 2535 จำนวน 4.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 118 บาท บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุน
ดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2535
ที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2536 ได้มีมติให้ยืนยันมติพิเศษการ
เพิ่มทุนของที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2534 และวันที่ 22
พฤศจิกายน 2534
หมายเหตุ 6 - ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์
ในปี 2539 บริษัทได้ตีราคาที่ดินเพิ่มจำนวน 834.57 ล้านบาท ตามมติที่ประชุมคณะ
กรรมการบริหาร ครั้งที่ 12/2539 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2539 และได้บันทึกส่วนที่ตีราคา
เพิ่มดังกล่าวเป็นส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ในส่วนของผู้ถือหุ้น
หมายเหตุ 7 - เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน
ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2539 และ 21 เมษายน
2538 ให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 7.00 บาท และ 4.25 บาท คิดเป็น
จำนวนเงินทั้งสิ้น 210,000,000 บาท และ 127,500,000 บาท ตามลำดับ
หมายเหตุ 8 - การจัดประเภทรายการใหม่
งบการเงินงวด 2538 ที่นำมาแสดงเปรียบเทียบ ได้จัดประเภทรายการใหม่ให้
สอดคล้องกับงบการเงินงวด 2539